การลดระดับพนักพิงของที่นั่งด้านหลัง
พนักพิงที่นั่งด้านหลังจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน แต่ละส่วนจะสามารถพับไปด้านหน้าแยกกันได้
คำเตือน
- การปรับที่นั่งและยึดเข้าที่ก่อนขับรถ ใช้ความระมัดระวังเมื่อปรับที่นั่ง การปรับที่ไม่มีการควบคุมหรือไม่ระมัดระวังอาจทำให้ได้รับบาดเจ็บจากการหนีบได้
- เมื่อบรรทุกวัตถุที่ยาว ต้องยึดไว้ให้มั่นคงเสมอเพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บและความเสียหายในระหว่างการเบรคอย่างกะทันหัน
- เมื่อนำสัมภาระขึ้นหรือลงจากรถ ต้องปิดการทำงานของรถและใช้เบรกจอดรถเสมอ
- สำหรับรถที่มีชุดเกียร์อัตโนมัติ ให้ตั้งคันเกียร์ไว้ที่ตำแหน่ง P เพื่อป้องกันไม่ให้มีการเปลี่ยนตำแหน่งโดยไม่ตั้งใจ
ต้องไม่มีวัตถุใดๆ วางอยู่บนเบาะนั่งด้านหลังในขณะที่กำลังพับพนักพิงหลังลง และเข็มขัดนิรภัยจะต้องไม่ถูกคาดอยู่ มิฉะนั้น มีความเสี่ยงที่จะทำให้วัสดุหุ้มเบาะนั่งด้านหลังเสียหายได้สำคัญ
สำคัญ
ก่อนที่จะลดระดับที่นั่ง จะต้องยกที่วางแขน* สำหรับที่นั่งตรงกลางขึ้นก่อน
จะต้องปิดฝาปิดช่องสัมภาระลอดผ่าน* ในที่นั่งด้านหลังก่อนที่จะลดระดับลง
อาจจำเป็นต้องดันที่นั่งด้านหน้าไปข้างหน้าและปรับพนักพิงขึ้นด้านบน เพื่อให้สามารถพับพนักพิงของที่นั่งด้านหลังไปทางด้านหน้าจนสุดได้บันทึก
การลดระดับพนักพิง
ในการพับที่นั่งด้านหลัง รถจะต้องจอดอยู่กับที่ และประตูด้านหลังต้องเปิดอยู่อย่างน้อยหนึ่งประตู

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีผู้โดยสารหรือสิ่งของใดๆ อยู่บนที่นั่งด้านหลัง

ลดระดับพนักพิงศีรษะของที่นั่งตรงกลางในแบบแมนนวล

ดึงมือจับที่อยู่ที่พนักพิงที่นั่งด้านซ้ายและด้านขวาของรถไปข้างหน้าเพื่อพับส่วนของที่นั่งด้านหลังด้านซ้ายและด้านขวาลง
- พนักพิงจะปลดออกจากตัวล็อคและจำเป็นต้องลดระดับลงไปที่ตำแหน่งแนวนอนในแบบแมนนวล
การยกพนักพิงขึ้น
- เลื่อนพนักพิงขึ้น/กลับเข้าที่
- ดันพนักพิงจนกระทั่งตัวล็อคจับเข้าตำแหน่ง
- ยกระดับพนักพิงศีรษะในแบบแมนนวล
- ถ้าจำเป็น ให้ยกพนักพิงศีรษะของที่นั่งตรงกลางขึ้นเมื่อมีการพับพนักพิง ไฟแสดงสถานะสีแดงไม่ควรจะติดสว่างอีกต่อไป หากยังคงติดสว่างอยู่แสดงว่าพนักพิงไม่ล็อคเข้าในตำแหน่ง
คำเตือน
คำเตือน
ตรวจสอบว่า พนักพิงและพนักพิงศีรษะในที่นั่งด้านหลังล็อคเข้าในตำแหน่งอย่างถูกต้องหลังจากที่พับขึ้น
จะต้องยกพนักพิงศีรษะของที่นั่งตัวนอกขึ้นเสมอเมื่อมีผู้โดยสารนั่งอยู่บนที่นั่งด้านหลังตัวใดตัวหนึ่ง