ความยั่งยืน
เราต้องการเป็นกลางต่อสภาพภูมิอากาศภายในปี พ.ศ.2583 ซึ่งเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เราเคยเผชิญมา
เราเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา ดังนั้น จึงเป็นความรับผิดชอบของเราในการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เราทำและวิธีที่เราทำ ให้ทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาด้วยกัน

ความมุ่งมั่นของเรา
เป็นธุรกิจที่ปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (climate neutrality) ภายในปี พ.ศ. 2583
เป็นธุรกิจแนวเศรษฐกิจหมุนเวียนภายในปี พ.ศ. 2583
เป็นผู้นำที่ได้การยอมรับในการดำเนินธุรกิจด้วยจริยธรรมและความรับผิดชอบ

การก้าวไปสู่เป้าหมาย
ระบบไฟฟ้าเต็มตัวภายในปี พ.ศ.2573
วันนี้ รถยนต์ของเราทั้งหมดมีรุ่นที่ใช้ไฟฟ้า เราวางแผนที่จะเป็นบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบภายในปี พ.ศ.2573 โดยเมื่อถึงตอนนั้น เราต้องการให้รถยนต์ใหม่ของเราทั้งหมดเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วน เราทุ่มสุดตัวเพื่อการนี้
พ.ศ.2560
บริษัทรถยนต์แห่งแรกที่ประกาศการใช้พลังงานไฟฟ้าแบบครบวงจร
พ.ศ.2562
รถยนต์ทุกรุ่นมีรุ่นที่ใช้ไฟฟ้า
พ.ศ.2564
C40 Recharge รถยนต์วอลโว่คันแรกที่ออกแบบมาให้ใช้พลังงานไฟฟ้าเท่านั้น
พ.ศ.2568
ความใฝ่ฝันก็คือ 50 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายจะเป็นรุ่นไฟฟ้าล้วน
พ.ศ.2573
แผนการก็คือวอลโว่รุ่นใหม่ทุกรุ่นจะเป็นไฟฟ้าล้วน

แต่ระบบไฟฟ้าอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ
เราต้องลดการปล่อยมลพิษของเราทั้งหมดทั้งทางตรงและทางอ้อม เราจึงกำลังจัดการกับคาร์บอนไดออกไซด์ภายในห่วงโซ่อุปทานและการดำเนินงานของเรา ซึ่งรวมถึงการนำเศรษฐกิจหมุนเวียนมาใช้ด้วย
ในฐานะที่เป็นขั้นตอนในระหว่างการมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศภายในปี พ.ศ.2583 เราตั้งเป้าที่จะลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ตลอดวงจรชีวิตต่อรถยนต์หนึ่งคันลง 40 เปอร์เซ็นต์ ในระหว่างปี พ.ศ.2561 และ พ.ศ.2568
-50%
มลพิษจากท่อไอเสีย
-25%
การปล่อยมลพิษในห่วงโซ่อุปทาน
-25%
การปล่อยมลพิษในการดำเนินงาน รวมการขนส่ง
-40%
การลดโดยรวมต่อรถหนึ่งคัน
เราสนับสนุนเป้าหมายของข้อตกลงปารีส
องค์กร Science Based Targets initiative (SBTi)* ยอมรับแผนของเราที่มุ่งมั่นจะเป็นธุรกิจที่ปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ.2583 โดย SBTi ระบุว่าเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของเรา สอดคล้องกับเป้าหมายของข้อตกลงปารีสเรื่องการจำกัดภาวะโลกร้อนให้ต่ำกว่า 2°C เมื่อเทียบกับระดับยุคก่อนอุตสาหกรรมเรามุ่งมั่นที่จะลดผลกระทบของเราที่มีต่อโลก และเรารู้ว่าจะต้องใช้ความพยายามในระดับโลก ดังนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องร่วมมือกับบริษัทอื่น ซัพพลายเออร์ และองค์กรที่มีความคิดแบบเดียวกัน เพื่อขับเคลื่อนประสิทธิภาพด้านความยั่งยืนของเราเอง และการเปลี่ยนแปลงภายในอุตสาหกรรมของเรา
*SBTi เป็นความร่วมมือระหว่าง Carbon Disclosure Project (CDP), United Nations Global Compact, World Resources Institute (WRI) และ World Wide Fund for Nature (WWF)

มรดกแห่งความยั่งยืน
เราได้ดำเนินการเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมาเป็นเวลานานหลายปี มาทำความรู้จักกับสิ่งที่เราได้ดำเนินการมาจนถึงปัจจุบันนี้