คุณสามารถใช้การชาร์จเร็วได้ตามสถานีชาร์จเร็วแบบ DC ในระหว่างทาง และเพื่อชาร์จให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เราแนะนำให้คุณจำกัดระดับการชาร์จไว้ที่เพียง 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะทำให้เวลาในการชาร์จของคุณสั้นที่สุด เนื่องจากช่วง 20 เปอร์เซ็นต์สุดท้ายของการชาร์จจะใช้เวลานานที่สุด

ในประเทศที่ Google Maps มีข้อมูลของสถานีชาร์จ คุณสามารถค้นหาสถานีชาร์จสาธารณะได้โดยตรง จากแผนที่บนจอแสดงผลส่วนกลางของรถ หรือผ่านแอพบนสมาร์ทโฟน จากนั้น คุณยังสามารถเลือกสถานีชาร์จที่ต้องการพร้อมรับคำแนะนำการเดินทางได้ด้วย

แบตเตอรี่ทำให้รถมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น 500 กก. ซึ่งจำเป็นต้องคำนึงถึงเรื่องผลกระทบต่อผู้โดยสารในรถรวมถึงในยานพาหนะอื่น แบตเตอรี่ยังต้องมีการป้องกันแยกต่างหาก เพื่อหลีกเลี่ยงการรั่วไหลที่เป็นอันตรายหลังจากการชน โดยวิศวกรด้านความปลอดภัยของ Volvo Cars ได้ใช้โซลูชันด้านความปลอดภัยที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ มากมายเพื่อออกแบบรถยนต์ไฟฟ้าของเราให้สามารถตอบโจทย์ความท้าทายทั้งหมดเหล่านี้

มอเตอร์ไฟฟ้าจะถูกปิดผนึกไว้ตลอดอายุการใช้งาน และไม่ต้องบำรุงรักษาใดๆ ดังนั้น เมื่อเทียบกับรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สันดาปแล้ว รถยนต์ไฟฟ้า Volvo ต้องการการบำรุงรักษาน้อยกว่ามาก ซึ่งอาจส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการใช้งานลดลง

ตลอดอายุเฉลี่ยของการใช้งานของรถยนต์ คาร์บอนฟุตพริ้นท์ของรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) นั้น น้อยกว่ารถยนต์แบบดั้งเดิมที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) อย่างไรก็ตาม ระยะทางในการขับขี่เพื่อให้รถยนต์ BEV มีคาร์บอนฟุตพริ้นท์น้อยกว่ารถยนต์แบบ ICE ส่วนใหญ่แล้วขึ้นอยู่กับว่า พลังงานไฟฟ้าที่ใช้กับรถยนต์นั้นผลิตขึ้นมาอย่างไร โดยหากคุณชาร์จรถยนต์ BEV ของคุณด้วยพลังงานหมุนเวียน การขับขี่เพื่อไปให้ถึงจุดที่คาร์บอนฟุตพริ้นท์ต่ำกว่าก็จะน้อยลง เทียบกับเมื่อคุณใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากเชื้อเพลิงฟอสซิล เราจึงขอสนับสนุนให้คุณใช้พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานหมุนเวียนกับรถไฟฟ้าของคุณ ในกรณีที่ทำได้

และเรามุ่งมั่นที่จะสร้างความโปร่งใสอย่างเต็มที่ในเรื่องของผลกระทบทางคาร์บอนของรถยนต์ไฟฟ้าของเรา โดยการวิเคราะห์อายุการใช้งาน (LCA) ของ XC40 Recharge มีการเผยแพร่แล้ว ส่วนการวิเคราะห์อายุการใช้งานของ C40 Recharge จะพร้อมเผยแพร่ในช่วงปลายปี 2021

Volvo Cars มุ่งมั่นในการตรวจสอบย้อนกลับอย่างเต็มที่ เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าของเราจะสามารถขับรถยนต์ไฟฟ้า Volvo ได้ โดยรู้ว่าวัตถุดิบสำหรับแบตเตอรี่นั้นได้รับการจัดหามาอย่างมีความรับผิดชอบ การนำเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) เข้ามาใช้ ช่วยเพิ่มความสามารถในการตรวจสอบย้อนกลับ ภายในห่วงโซ่อุปทานโคบอลต์ของเราเป็นอย่างมาก บล็อกเชนร่วมกับการตรวจสอบแหล่งผลิตแร่ การติดตามด้วย GPS การสแกนเข้าและออก การตรวจสอบผู้ให้บริการโลจิสติกส์ การจดจำใบหน้า การตรวจสอบ ID และการติดตามเวลา ทั้งหมดนี้ล้วนช่วยในการตรวจสอบย้อนกลับของวัตถุดิบจากเหมืองไปยังโรงงานผลิตรถยนต์

Volvo Cars ทำงานอย่างใกล้ชิดกับซัพพลายเออร์ เพื่อเพิ่มความยั่งยืนของผลิตภัณฑ์และบริการของเรา รวมถึงการจัดการห่วงโซ่อุปทานด้วยความรับผิดชอบ และการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เรามุ่งมั่นในการจัดหาแร่ธาตุและโลหะอย่างมีความรับผิดชอบ และสนับสนุนอย่างเต็มที่ตามคำแนะนำของ OECD ในการจัดการห่วงโซ่อุปทานของเหมืองแร่อย่างมีความรับผิดชอบ สำหรับพื้นที่ซึ่งมีผลกระทบจากความขัดแย้ง และมีความเสี่ยงสูง ในแง่นี้ เราจึงกำหนดให้ซัพพลายเออร์แบตเตอรี่ของเราสนับสนุนความมุ่งมั่นของเรา ในการสร้างความโปร่งใสอย่างเต็มที่ในห่วงโซ่อุปทานโคบอลต์ของเรา และดำเนินการตรวจสอบย้อนกลับได้อย่างสมบูรณ์

ผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืน เป็นสิ่งสำคัญในการประเมินและคัดเลือกซัพพลายเออร์ของเรา เราตรวจสอบประสิทธิภาพของซัพพลายเออร์ที่มีอยู่ และติดตามการตรวจสอบโดยองค์กรผู้ให้การรับรองภายนอก นอกจากนี้เรายังวางข้อกำหนดสำหรับซัพพลายเออร์แบตเตอรี่ของเรา เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนในระหว่างกระบวนการผลิต รวมถึงการใช้พลังงานหมุนเวียนอีกด้วย ซัพพลายเออร์ทั้งหมดของเราต้องยอมรับจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจสำหรับพันธมิตรทางธุรกิจของ Volvo Cars ซึ่งรวมถึงการปฏิบัติตามสิทธิมนุษยชนและสิทธิแรงงานด้วย